ประกันรถมอเตอร์ไซค์ Big bike กับรู้ใจ
เราเป็น Partner ของรู้ใจ-ROOJAI ขอแนะนำเบี้ยประกันภัยรถมอเตอร์ไซค์ และ Big Bike ที่ได้รับการยอมรับลูกค้า และมีจุดเด่นดังนี้
- รับประกันหลากหลายยี่ห้อ และรุ่น มากที่สุด
- ให้ทุนประกันสูงกว่า ประกัน 2+ 3+ ให้ทุนสูงสุด 100,000 บาท
- เบี้ยถูกที่สุด หากที่อื่นถูกกว่า คืนเงิน 100%
- ผ่อนชำระได้ 10 งวด ไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
- มีค่ารักษาพยาบาลให้ผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้าย
- คะแนนรีวิวความพึงพอใจของลูกค้าจริง 4.7/5
ตัวอย่างเบี้ยประกันรถมอเตอร์ไซค์ : HONDA รุ่น Forza 350cc ปี 2023 ใช้ต่างจังหวัด
* เบี้ยประกันที่นำเสนอ จะขึ้นอยู่กับข้อมูลผู้ขับและการใช้รถแต่ละคน ซึ่งจะทำให้เบี้ยอาจจะมีการปรับลด หรือเพิ่มขึ้นได้
** หากเบี้ยชั้น 1 แพงไป แนะนำ 2 พลัส เพราะคุ้มครองซ่อมรถเราจากกรณีรถชนรถ รถหาย ไฟไหม้ด้วย มีติดรถไว้อุ่นใจกว่า
*** ทางรู้ใจไม่รับทำประกันรถมอเตอร์ไซค์ ดังนี้
- รถที่มีขนาดเครื่องยนต์ไม่ถึง 125 cc
- ผู้ขับขี่มีอายุไม่เกิน 23 ปี
- มีอายุใบขับขี่ไม่ถึง 2 ปี
- รถที่ใช้วิ่งเชิงพาณิชย์ เช่น วิ่งแกร็บ ไลน์แมน หรือรับส่งเอกสาร
แต่หากสนใจเช็คเบี้ย คลิ๊กเพื่อทักมาคุยกับเราได้ครับ
ประกันภัยรถมอเตอร์ไซค์ & บิ๊กไบค์ มีกี่ประเภท คุ้มครองอย่างไรบ้าง
เพื่อให้ทุกท่านได้เข้าใจ และเลือกซื้อ
ประกันรถมอเตอร์ไซค์ได้ตรงกับความต้องการ และเหมาะสมกับเงินที่เราอยากควักออกจากกระเป๋าได้อย่างคุ้มค่า ก่อนจะพูดถึงประเภทและความคุ้มครอง ผมขอแนะนำง่ายๆ ว่าประกันภัยรถมอเตอร์ไซค์ทุกๆ ฉบับ จะต้องคุ้มครองชีวิต และทรัพย์สินของบุคคลภายนอกเป็นความคุ้มครองพื้นฐานครับ (คุ้มครองบุคคลภายนอก) และขอเพิ่มคำศัพท์ประกันภัยที่น่ารู้ ให้ทราบก่อนนะครับ
พลัส หรือ + แปลง่ายๆ ว่า ซ่อมรถมอเตอร์ไซค์คันของเราด้วย เมื่อเกิดอุบัติเหตุรถชนรถ และสามารถระบุคู่กรณีได้ (รถหมายถึงยานพาหนะทางบกที่ขับเคลื่อนด้วยกำลังเครื่องยนต์) แม้ว่าเราจะเป็นฝ่ายผิดก็ตาม โดยทางประกันจะซ่อมรถเราไม่เกินทุนประกันตามกรมธรรม์ ส่วนกรณีรถเราไปชนกำแพง รั้ว เสา ชนต้นไม้ ตกคูคลอง ตกข้างทาง ส่วนนี้จะไม่ได้รับความคุ้มครอง เพราะถือว่าไม่มีคู่กรณี เราต้องซ่อมเองนะครับ
ทุนประกัน คือ วงเงินที่ประกันให้ความคุ้มครองรถของเรากรณีสูญหาย ไฟไหม้ หรือการชนที่ต้องซ่อมรถเรา ซึ่งทางบริษัทประกันจะเป็นผู้กำหนดทุนประกันของรถแต่ละคันครับ แต่โดยหลักการแล้วทุนประกันจะต่ำกว่าราคารถของเรา
ค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) คือ ส่วนที่ผู้เอาประกันจะต้องรับผิดตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ จากกรณีที่เราเป็นฝ่ายผิด หรือเกิดอุบัติไม่ทราบคู่กรณีหรือไม่มีคู่กรณี เคสตัวอย่าง ขับรถมอเตอร์ไซค์ไปชนรถเบนซ์ เราเป็นฝ่ายผิด จะต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก 2,000 บาท หรือ 5,000 บาท หรือตามจำนวนที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ ให้แก่บริษัทประกันภัย
ค่ารักษาพยาบาลตามเอกสารแนบท้าย เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ นะครับ เพราะเวลาเกิดอุบัติเหตุโดยส่วนใหญ่ จะมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ หลายๆบริษัทประกันภัย ไม่มีความคุ้มครองในส่วนนี้ เพราะมองว่ารถจักรยานยนต์มีความเสี่ยงสูง และไม่สามารถซื้อเพิ่มได้ด้วยต้องใช้สิทธิจาก พรบ. เพียงอย่างเดียว แต่ที่รู้ใจมีความคุ้มครองให้เลย 50,000 บาท/คน คุ้มครองถึง 2 ท่าน ผู้ขับขี่และคนซ้อนท้าย และยังสามารถซื้อเพิ่มได้ถึง 200,000 บาท/คน ไม่ว่าจะทำประกันชั้น 1 ชั้น 2 ชั้น 2 พลัส, 3 พลัส หรือชั้น 3 ก็ตาม
ที่นี้ผมจะลองไล่เรียงตามลำดับความคุ้มครองจากน้อยไปหามาก ดังนี้
เน้นคุ้มครองคู่กรณีเป็นหลักไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สิน ร่างกายหรืออนามัย แต่รถมอเตอร์ไซค์คันของเราไม่คุ้มครอง (ไม่ซ่อมรถเรา) เช่น เราขับบิ๊กไบค์ชนรถเบนซ์ได้รับความเสียหาย แถมคนในรถเบนซ์บาดเจ็บ ประกันก็จะให้ความคุ้มครองในการซ่อมรถเบนซ์ และดูแลค่ารักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บ แต่จะไม่ซ่อมรถมอเตอร์ไซค์คันของเรา แต่ถึงอย่างไรก็ตามหากเราได้รับบาดเจ็บและเป็นฝ่ายผิด ก็จะต้องเบิกค่ารักษาจาก พรบ. ได้ก่อน 30,000 บาท แล้วจึงจะไปเบิกค่ารักษาจากรู้ใจประกันชั้น 3 ได้อีก 50,000 บาท (ซื้อค่ารักษาเพิ่มเติมได้) ซึ่งเบี้ยชั้น 3 นี้ ถือว่าถูกที่สุดเมื่อเทียบกับชั้นอื่นๆ
นอกจากจะให้ความคุ้มครองคู่กรณีเหมือนชั้น 3 แล้ว แต่รถมอเตอร์ไซค์ของเรายังจะได้รับความคุ้มครองเพิ่มเติม คือ ซ่อมรถเราด้วยเมื่อเกิดอุบัติเหตุรถชนรถและสามารถระบุคู่กรณีได้ โดยจะซ่อมได้ไม่เกินทุนประกันรถเราครับ เช่น รถเราทำทุนประกัน 100,000 บาท หากรถเรามีความเสียหายและซ่อมจริงอยู่ที่ 70,000 บาท ประกันก็ซ่อมให้ตามความเสียหายจริงไม่เกินทุนประกัน เมื่อไหร่ก็ตามที่มีความคุ้มครองซ่อมรถคันของเราด้วย เบี้ยก็จะขยับสูงขึ้นจากชั้น 3 ธรรมดาครับ
มันก็คือประกันชั้น 3 ที่เน้นคุ้มครองคู่กรณีเป็นหลัก และเพิ่มความคุ้มครองรถหายและไฟไหม้เข้าไปครับ ถ้าจะเลือกประเภทนี้ ลองกัดฟันเลือก 2 พลัส เพราะจะได้มีคุ้มครองการซ่อมรถคันของเราด้วย
จริงๆ แล้วก็คุ้มครองเหมือนกับ 3 พลัส เลยครับ แต่จะเพิ่มความคุ้มครองรถหายและไฟไหม้ให้ด้วย และที่สุดของที่สุดเฉพาะที่รู้ใจ ขยายความคุ้มครองน้ำท่วมให้อีกด้วย ซึ่งหลายๆ ท่านที่กังวลเรื่องอุบัติเหตุ กลัวรถหายหรือขับรถลุยน้ำท่วมด้วย แผนนี้น่าจะตอบโจทย์ได้ครับ เพื่อให้เห็นภาพ ผมลองยกตัวอย่าง 3 เคส
เคสแรก เราขับรถบิ๊กไบค์ไปชนกับรถเบนซ์ได้รับความเสียหาย 600,000 บาท ประกันจะคุ้มครองคู่กรณีไปจัดซ่อมให้รถเบนซ์ 600,000 บาท และจะมาซ่อมรถคันของเราด้วย หากรถเราคันนี้มีทุนประกัน 100,000 บาท แต่เสียหาย 80,000 บาท ก็จัดซ่อมตามจริง
เคสที่สอง จอดรถไว้ที่บ้านแต่มีเหตุพายุและน้ำท่วมบ้าน รวมถึงรถจักรยานยนต์ของเราได้รับความเสียหาย 30,000 บาท ประกันก็จะให้ความคุ้มครองซ่อมรถจักรยานยนต์ให้ด้วย
เคสที่สาม จอดรถจักรยานยนต์ไว้ที่ร้านสะดวกซื้อ เมื่อกลับออกมาจากการซื้อของ ปรากฎว่ารถหาย เคสนี้ก็จะได้รับความคุ้มครองกรณีรถหาย ซึ่งจะคุ้มครองตามทุนประกัน เช่น ทุนประกัน 50,000 บาท แม้ว่าราคาตลาดของรถคันนี้จะอยู่ที่ 65,000 บาท ประกันก็จะใช้ตามทุนประกันที่ 50,000 บาท นะครับ
เป็นแบบประกันที่ผมแอบเชียร์มากที่สุด เพราะประกันประเภทนี้ตอบโจทย์สำหรับเจ้าของรถจักรยานยนต์หรือบิ๊กไบค์ที่มีราคาสูง และต้องการให้คุ้มครองกรณีอุบัติเหตุ รวมถึงรถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วมด้วย แต่เบี้ยชั้น 1 แพงเกินไปโดยเฉพาะรถฝั่งยุโรป เมื่อลดมาทำชั้น 2 พลัส เบี้ยก็ลดลงมาเยอะพอสมควรเลยครับ
หลายๆ ท่านคงทราบดีว่าประกันชั้น 1 จะได้รับความคุ้มครองครอบคลุมที่สุดแล้ว แต่ผมอยากให้เข้าใจว่าประกันชั้น 1 ไม่ได้คุ้มครองทุกกรณี โดยหลักแล้วความเสียหายต้องมาจากกรณีอุบัติเหตุ เช่น หนูกัดสายไฟ ขับรถชนกำแพง รั้ว สุนัข รถยนต์คู่กรณี ตกหลุมยางแตกพร้อมกับตัวรถได้รับความเสียหายในคราวเดียวกัน หรือกรณีรถหาย ไฟไหม้ ภัยธรรมชาติ น้ำท่วม ลมพายุ ก็ได้รับความคุ้มครอง แต่ผมขอยกตัวอย่างเพิ่มเติมในกรณีที่ไม่ได้รับความคุ้มครองบ้างนะครับ เช่น สีรถลอกร่อน อุปกรณ์เสื่อมสภาพ ตกหลุมยางแตกโดยที่ตัวรถไม่ได้รับความเสียหาย (ยางรั่ว ยางแตกเฉยๆ ประกันไม่คุ้มครองนะครับ) เป็นต้น เมื่อได้รับความคุ้มครองสูงแบบนี้ เบี้ยชั้น 1 ก็แพงที่สุดเลยครับ ** รถญี่ปุ่น เบี้ยจะถูกกว่ารถยุโรปมากครับ (ผมเลยต้องแอบเชียร์ 2 พลัส ถ้าเบี้ยชั้น 1 มันแพงเกินไป)
ตารางความคุ้มครองประกันภัยรถมอเตอร์ไซค์ของรู้ใจ
ความคุ้มครองกรณีอุบัติเหตุส่วนบุคคล และค่ารักษาพยาบาล จะมีวงเงินค่ารักษา จำนวน 50,000บาท/คน (คุ้มครองไม่เกิน 2 ท่าน คือผู้ขับขี่และคนซ้อนท้าย) และเราสามารถซื้อเพิ่มเติมได้ไม่เกินคนละ 200,000 บาท/คน
ความคุ้มครองเพิ่มเติม กรณีน้ำท่วม : ที่มีอยู่ในประกัน 2 พลัส และชั้น 1 ไม่ได้มีความหมายว่าจะต้องคุ้มครองน้ำท่วมทุกกรณีนะครับ เช่น
- จอดรถใต้ตึกคอนโดหรือที่บ้านแล้วมีน้ำท่วมจากภัยพิบัติธรรมชาติเคสนี้ประกันให้ความคุ้มครอง
- ฝนตกและรถติดจนเกิดน้ำท่วมรถเคสนี้ก็ได้รับความคุ้มครอง
- การขับขี่รถจักรยานยนต์ลุยน้ำท่วมอันนี้ต้องระมัดระวังนะครับเรียกว่าจะต้องพิจารณาเป็นรายกรณีไปเลยครับ แต่พอที่จะวางหลักได้ว่า หากรู้อยู่แล้วว่าขับขี่รถไปลุยน้ำท่วมตัวรถได้รับความเสียหายแน่ๆ หรือหากมีประกาศจากส่วนราชการว่าถนนเส้นนี้น้ำท่วมหรือคนส่วนใหญ่ไม่สัญจรทางนี้เพราะน้ำท่วม แต่เราก็ยังฝืนขับขี่รถจนเกิดความเสียหาย เคสนี้ประกันอาจจะไม่คุ้มครอง แต่ถ้าเราไม่รู้ว่าถนนเส้นนี้น้ำท่วมหรือน้ำท่วมไม่สูงมากและก็ยังมีคนทั่วไปขับขี่ทั้งรถยนต์และจักรยานยนต์ ก็อาจจะได้รับความคุ้มครองได้ โดยต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าวิญญูชนทั่วไปก็ยังขับขี่รถยนต์รถจักรยานยนต์สัญจรตามถนนเส้นนี้ตามปกติทั่วไป
TIP ในการกรอกข้อมูลเพื่อเช็คเบี้ย
- สำหรับท่านที่เคยทำประกันแล้วมีเคลมหรือไม่มีประวัติดี และให้กรอกข้อมูลการเคลมเป็น “ไม่มีเคลม” หรือ “0 ครั้ง” และให้กรอกประวัติดีเป็น “ไม่ทราบประวัติดี” โดยแจ้งกับเจ้าหน้าที่รู้ใจว่า หากรมธรรม์เดิมไม่เจอ หรือทำกรมธรรม์หาย เพียงเท่านี้เราจะได้รับส่วนลดสูงสุดถึง 30% เลยนะครับ
- สำหรับท่านมีประวัติดีจากบริษัทเดิมมา 40%-50% ก็กรอกประวัติดีตามจริงได้เลย
- รถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้ต่างจังหวัดเบี้ยถูกกว่ากรุงเทพฯ มากพอสมควร
- แนะนำให้ เลือกรับใบเสนอราคาผ่านอีเมล หรือ ให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ เพื่อให้ได้รับใบเสนอราคาพร้อมรายละเอียดผ่านทางอีเมลไว้เปรียบเทียบกับเจ้าอื่น และเรายังสามารถกลับมาแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดนะครับ เช่นอยากเปลี่ยนจากชั้น 1 มาเป็น 2 พลัส และในกรณีที่เราเกิดสนใจทำประกันขึ้นมา เราสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อที่จะช่วยแนะนำผลิตภัณฑ์หรือช่วยกรอกข้อมูลต่างๆ แทนเราได้อีกด้วย ทำให้ไม่ต้องมานั่งเสียเวลากรอกข้อมูลเพิ่มเติมครับ
ติดต่อสอบถามข้อมูล ความคุ้มครอง
ขอส่วนลด (เฉพาะกรณีเงินสด)
เพิ่มเติมได้ที่